กระดาษลูกฟูกคืออะไร |
กระดาษลูกฟูก นับได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบที่ยอดเยี่ยม สำหรับใช้ในการผลิต และการจัดส่งสินค้า สาเหตุที่กระดาษลูกฟูก ได้รับความนิยมในการผลิตบรรจุภัณฑ์ เนื่องจาก มีความทนทาน สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย น้ำหนักเบา เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ทันสมัย สามารถปรับเปลี่ยนให้ตรงกับความต้องการได้และสามารถปกป้องสินค้า สามารถพิมพ์ลวดลายเพื่อให้ข้อมูลและทำให้เกิดความสวยงามราคาประหยัด
|
ในแถบอเมริกาเหนือ กล่องกระดาษลูกฟูกได้รับความนิยมใช้ในการบรรจุสินค้า เพื่อการจัดส่งสำหรับสินค้าแทบทุกชนิด ด้วยเหตุผลต่างๆมากมาย เช่น ความสามารถในการปกป้องรักษาสินค้าที่ดีเยี่ยม, ต้นทุนต่ำ, สามารถจัดหาได้ง่าย, ต้นทุนในการออกแบบเพื่อให้ตรงกับความต้องการของสินค้าแต่ละชนิดต่ำ นอกจากนั้น ยังมีเหตุผลอื่น ๆ เช่น 1.) กระดาษลูกฟูก สามารถป้องกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง และสามารถปรับเปลี่ยนให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ในกรณีที่สินค้ามีความต้องการพิเศษ เช่น น้ำหนักมาก แตกง่าย หรือเป็นวัตถุอันตราย 2.) กระดาษลูกฟูกถูกออกแบบให้สามารถนำมาเรียงซ้อนกันได้ มันสามารถทนต่อแรงกดทั้งด้านบน และด้านข้าง รวมถึงมีการทดสอบความสามารถในการทนต่อแรงดันทะลุ 3.) กระดาษลูกฟูกสามารถนำมาออกแบบในแบบต่างๆได้หลากหลาย โดยสามารถตัดและพับเป็นขนาดและรูปแบบต่างๆ ได้มากมายนับไม่ถ้วน รวมถึงสามารถนำมาพิมพ์ให้มีรูปแบบ สีสันสวยงามด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัยได้ 4.) กระดาษลูกฟูกเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีความแข็งแรงและสามารถพิมพ์ข้อความและรูปภาพลงบนตัวกระดาษได้ 5.) กระดาษลูกฟูกได้ผ่านการทดสอบแรงกระแทก ความทนทานต่อการตกจากที่สูง และความทนทานต่อการสั่นสะเทือน และถือได้ว่าเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับใช้ในการขนส่งสินค้า 6.) กระดาษลูกฟูกส่วนใหญ่จะทำจากวัสดุรีไซเคิ้ล และมักจะผลิตจากเศษของที่ใช้แล้วจากมนุษย์ 7.) การผลิตกระดาษลูกฟูกไม่มีการใช้วัสดุมีพิษ หรือทำลายชั้นโอโซน 8.) มากกว่า 74 % ของผลิตภัณฑ์จากกระดาษลูกฟูกจะถูกนำไปรีไซเคิลทำให้กระดาษลูกฟูกนับได้ว่าเป็นหนึ่งในบรรจุภัณฑ์ที่มีอัตราการถูกนำไปรีไซเคิลสูง
|
กระดาษลูกฟูกที่นิยมใช้กัน โดยทั่วไปจะมี 3 ประเภท คือ
1. กระดาษลูกฟูก 2 ชั้น (Single Face) 2. กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น (Single wall) 3. กระดาษลูกฟูก 5 ชั้น (Double wall) |
ลอน A มีความสูงของลอน 4.0-4.8 มม. มีจำนวนลอน 105-125 ลอน/เมตร เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการรับน้ำหนักการเรียงซ้อนมาก และไม่เน้นการพิมพ์
ลอน B มีความสูงของลอน 2.1 – 3.0 มม. มีจำนวนลอน 150-185 ลอน/เมตร เหมาะกับสินค้าที่รับน้ำหนักได้ด้วยตัวมันเอง เช่น กระป๋องเหล็ก
ลอน C มีความสูงของลอน 3.2 – 3.9 มม. มีจำนวนลอน 120-145 ลอน/เมตร เป็นที่นิยมใช้กันมาก เหมาะกับสินค้าทั่วๆไปที่รับน้ำหนักได้ปานกลาง
ลอน E มีความสูงของลอน 1.0 – 1.8 มม. มีจำนวนลอน 290-320 ลอน/เมตร รองรับการพิมพ์ได้ดีที่สุด เหมาะกับกล่องไดคัทขนาดเล็ก หรือ กล่องออฟเซ็ท |
แหล่งที่มา https://www.thaipaperbox.com/aboutpa